Awards:1 win & 3 nominations(Nominate from Fantasporto, Paris Film Festival, Slamdance Film Festival and won Slamdance Film Festival for Vision Award for Cinematography)
ต่อไปนี้เป็นการ Spoil ทั้งจากภาพและข้อความค่ะ
เรื่องนี้นะคะประทับใจการเล่าเรื่องมากเลย เค้าใช้ภาพเป็นสัญลักษณ์ได้ดีมาก สื่อให้เราเข้าใจหลายอย่าง อย่างเช่นฉากแรกที่เปิดมาเลย จะเป็นภาพของสองสาวชิอึนและเฮียวชินกำลังจมน้ำ จากในภาพตอนแรกทั้งสองนั้นตกน้ำลงไปด้วยกันและมีผ้าสีแดงผูกข้อเท้าของทั้งคู่ไว้ด้วยกัน แต่ชิอึนนั้นกลับดิ้นรนหนีออกมาจากพันธนาการนั้น แต่เฮียวชินกลับฉุดรั้งเอาไว้อย่างสุดแรงเกิด สุดท้ายชิอุนก็หนีพ้นน้ำขึ้นมาได้ ส่วนเฮียวชินจมน้ำลงไป ภาพนี้ทั้งคู่ไม่ได้จมน้ำกันจริง ๆ นะคะ แต่เป็นการเล่าเรื่องเนื้อเรื่องหลักที่หนังจะนำเสนอต่อไปอีก 90 นาทีจากนี้โดยใช้ภาพค่ะ
เฮียวชิน(สาวที่กำลังหยอกล้อกับชายหนุ่มในรูปซ้าย) เธอน่าจะเป็นเด็กที่เป็นผู้ใหญ่เกินตัวซะมากกว่าทำให้เข้ากับใคร ๆ ไม่ได้ต้องไปคบเพื่อนที่อายุมากกว่าอย่างอาจารย์โก (Goh) อาจารย์หนุ่มสอนวิชาวรรณกรรมที่ปกปิดความอ่อนแอไว้มาหลงรักเธอเพราะชอบในความเข้มแข็งในตัวเธอ แต่เฮียวชินก็มั่นใจว่า เธอรักเพียงแต่ชิอึนคนเดียว เธอคิดกับอาจารย์หนุ่มเพียงแค่เพื่อนในยามที่ชิอึนไม่ว่างเท่านั้น ตัวละครแบบเธอมีเสน่ห์ ลึกซึ้ง ลึกลับเข้าใจยาก
ชิอึน (สาวผมสั้น) ชิอึนมีปัญหาในเรื่องการฟังเสียงแต่เธอต้องปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับเนื่องจากมีผลต่อการคัดตัวนักวิ่ง มีเพียงเฮียวชินเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ (ต่อมามินอาก็รู้เพราะแอบไปอ่านไดอารี่เขามานี่) เรารู้สึกมีตอนหนึ่งที่เราเข้าใจเธอเลยคือ ตอนที่เรียนคอรัสกันอยู่ แล้วเธอไม่สามารถร้องได้เข้ากับทำนองเพราะเธอไม่ได้ยินเสียงเปียโน อาจารย์ให้เธอยืนขึ้นร้องเดี่ยว เธอก็ร้องไม่ได้อีก จนคนในห้องมองกันหมด ฉากนี้ให้ความรู้สึกอึดและอายแทนชิอึนเลยทีเดียว สุดท้ายฉากนี้เฮียวชินที่เป็นคนเล่นเปียโนกระแทกแป้นดังปัง! เข้าใจว่าเพราะอึดอัดที่อาจารย์ขู่เข็ญให้ชิอึนร้องอยู่นั้นแหละ และฉากต่อมานี่เองที่ทำให้เราเข้าใจว่า ทำไมทั้งคู่สามารถสื่อสารกันทางจิตได้ เพราะเฮียวชินบอกว่า คนเราต่างมี Harmony ที่ต่างกัน ชิอึนก็มี เธอก็มี ถ้า Tune กันได้ก็จะสามารถสื่อสารกันได้ จึงเป็นที่มานั่นเอง

เฮียวชิน เริ่มต้องการความมั่นคงจากคนรักโดยดรียกร้องความรักมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามติดชิอุนแจ เริ่มออกอาการหึงหวง อย่างเช่นตอนที่ชิอินเริ่มตีตัวออกห่างแล้วเธอมาหาชิอึนถึงห้องแต่งตัว ตีโพยตีพายร้องไห้ใหญ่แล้วใครไม่รู้โทรเข้าแล้วไม่พูดเธอก็รีบแย่งโทรศัพท์มาโทรกลับไปทันที ชิอึนเห็นอาการแบบนี้แล้วก็ได้แต่อึดอัดมากขึ้นทุกที ชิอึนเธอกลับอยากหลบหนีมากขึ้นทุกที สถานะการณ์พาให้เธอเผลอพูดออกไปว่า เธอจะเปิดเผยความสัมพันธ์กันต่อเพื่อน ๆ ทุกคนเพื่อทำให้เฮียวชินสบายใจขึ้น แต่ไม่นึกว่า เจ๊เฮียวชินแกจะเอาจริงซะงั้น
เมื่อตัวละครทั้งสองโดนกดดันจากเพื่อนมากก็ได้รับความทุกข์อย่างรุนแรง แล้วเรายังเห็นอีกว่า บางทีเวลามีคนมาวิพากษ์วิจารณืเราน่ะส่วนใหญ่เขาจะเป็นคนที่ไม่ชอบเราอยู่แล้วเมื่อได้ทีเจอจุดอ่อนก็รีบทิ่มแทงใหญ่ ใครไม่มั่นคงก็อาจเสียความมั่นใจไปก็ได้ ถ้าเราจะทำอะไรโดยมองแต่ว่า คนอื่นเขาจะคิดอะไร มากกว่าที่จะเอาความเห็นถูกของตัวเองแล้วล่ะก็ บางทีอาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดก็ได้
การต้องการความยอมรับในสังคมโดยเฉพาะเด็กวัยรุ่นสำคัญต่อพัฒนาการที่จะสืบเนื่องเป็นผู้ใหญ่มาก ไม่ว่าจะเป็นใคร เพศไหน ชอบพออะไรก็ต่างต้องการให้คนอื่นยอมรับทั้งนั้น แต่มนุษย์เรามักจะมองอะไรที่ต่างกับตัวเองว่า แปลก ทั้งที่เมื่อเขาเปลี่ยนสังคมไปตัวเขาเองก็อาจแปลกก็ได้